[DoWSR] Dream of WhiteStaR #6 EP6 ผู้มาเยือนจากต่างแดน (Visitor from faraland)

 ผู้มาเยือนจากแดนไกล (Visitor from faraland)

เสียงแตรเขาสัตว์ได้ขับขานจนดังกึกก้องไปทั่วบริเวณของชนเผ่าอิกไนท์เฟลม มันบ่งบอกเป็นเสียงสัญญาณการมาของชนเผ่าต่างถิ่นและนามของผู้มาเยือนในครั้งนี้คือท่วงทำนองอันเป็นเอกลักษณ์ของเสียงแตรออกศึกอันเกรียงไกรจากชนเผ่า ออราเคิลออฟทไวไลท์ (Oracle of Twilight) หนึ่งในชนเผ่าผู้ที่มีความแข็งแกร่งและทรงอำนาจที่สุดในอาณาจักรแห่งนี้ การปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของเหล่าผู้มาเยือนจากต่างชนเผ่าครั้งนี้จะนำพาเรื่องใดมาสู่ชนเผ่าอิกไนเฟรมกัน

ณ กระโจมที่พักของสองพี่น้องอาเดน่าและอาร์พิน่า

“อาร์พิน่า เจ้ารอพี่อยู่ในกระโจมนี้กับไวท์สตาร์ก่อนนะ” เธอรีบพูดด้วยสีหน้าวิตกกังวล
“อย่าแอบออกไปซนก่อเรื่องที่ไหนละ เข้าใจไหม? เดี๋ยวพี่ออกไปดูด้านนอกสักหน่อยนะ ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?” อาเดน่าได้นำสิ่งของที่ได้รับมาจากแม่เฒ่าวางลงและรีบแต่งตัวให้รัดกุมพร้อมรับมือกับสถานการณ์เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้

“อ่า...อื้ม” อาร์พิน่าตอบพร้อมพยักหน้าโดยมีท่าทีเป็นกังวลเช่นกัน เมื่อเห็นน้องสาวตอบสนองอย่างเข้าใจ อาเดน่าก็วางใจลงระดับหนึ่งพร้อมกับลูบหัวน้องสาวอันเป็นที่รักและรีบออกมาจากกระโจมที่พักมาเพื่อมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้านนอก

นางเห็นเริ่มเห็นมีผู้คนในเผ่าได้เดินไปในทิศทางที่มุ่งหน้าไปยังสถานที่หนึ่ง นางเองจึงได้มุ่งหน้าตามผู้คนไปในทิศทางนั้นเช่นกันเมื่อนางได้เดินมายังสถานที่ที่เหล่าผู้คนในชนเผ่านั้นชุมนุมรวมตัวกันอยู่ ซึ่งเป็นบริเวณพื้นที่ลานโล่งกว้างหน้ากระโจมของหัวหน้าชนเผ่าพร้อมด้วยกลุ่มคนแปลกหน้าจำนวนหนึ่งที่เกาะกลุ่มกันอยู่ เมื่อผู้นำของคนต่างถิ่นนั้นเห็นว่าเริ่มมีผู้คนมารวมตัวกันจำนวนมากพอสมควรแล้วได้ทำสัญญาณมือให้คนเป่าแตรนั้นหยุดเป่าแตรเขาสัตว์ลงได้

เมื่อเสียงแตรเขาสัตว์ที่ขับขานท่วงทำนองอันเกรียงไกรได้เงียบสงบลง หัวหน้าชนเผ่าอิกไนท์เฟลมได้เดินเข้าไปสอบถามถึงเป้าหมายการมาอย่างกะทันหันของผู้มาเยือนอย่างวิตกกังวล

“ขอวิหคอัคคีอำนวยพรแด่พวกท่านผู้มาเยือนจากแดนไกล เหตุใดท่านจึงมายังเผ่าอิกไนเฟรมของพวกเราอย่างกะทันหันกัน?”
ผู้นำของกลุ่มคนในชุดคลุมต่างถิ่นได้เดินออกมาจากกลุ่มคนที่ล้อมอยู่ รูปร่างของผู้นำที่เดินออกมานั้นสูงราว 172 เซนติเมตร ท่าทางสง่าปราดเปรียวสมเป็นดั่งนักรบที่มาจากชนเผ่าผู้ทรงเกียรติ เมื่อเดินมาถึงผู้นำชนเผ่าอิกไนท์เฟลม ผู้นำกลุ่มคนต่างถิ่นนั้นได้เอาฮูดคลุมหัวลง เผยให้เห็นใบหน้าอันสะสวยของหญิงสาว ผิวพรรณผุดผ่อง ผมยาวเงางามสีดำที่ถูกเกล้าเอาไว้ด้วยเครื่องประดับอย่างประณีต ผู้มีนัยน์ตาสีม่วงดุจแร่แอเมทิสต์ที่สะท้อนต้องแสงยามทิวา

“ข้ามีนามว่า แพนดอร่า (Pandora) เป็นตัวแทนของชนเผ่า ออราเคิลออฟทไวไลท์ เหตุในครั้งนี้ที่พวกเรานั้นมาเยือนพวกท่านอย่างกะทันหันโดยไม่ได้แจ้งให้พวกท่านทราบก่อน พวกเราต้องขออภัยพวกท่านด้วย โปรดอย่าได้มองการมาเยือนของพวกเราในครั้งนี้มีเจตนาคุกคามแต่อย่างใดเลย” เมื่อพูดกล่าวอย่างสุภาพจบลง นางได้โค้งคำนับตามธรรมเนียมต่อหัวหน้าชนเผ่าอย่างนอบน้อม
เมื่อหัวหน้าเผ่าเห็นท่าทีของผู้มาเยือนกล่าวแนะนำตัวอย่างสุภาพ ไม่มีแนวโน้มเป็นปฏิปักษ์แต่อย่างใดหัวหน้าชนเผ่าจึงได้ผ่อนคลายอาการวิตกกังวลลง เขาได้โบกมือให้ทุกคนสงบลง

จากนั้นแพนดอร่าได้กล่าวต่อ

“การมาเยือนของเราอย่างกะทันหันในครั้งนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนอย่างมาก เนื่องจากผู้พยากรณ์ของพวกเรานั้นได้รับคำพยากรณ์จากเทพแห่งรัตติกาลว่าจะเกิดเหตุเภทภัยร้ายแรงกับชนเผ่าผู้บูชานกอมตะของพวกท่าน”

เมื่อทุกคนได้ฟังก็เกิดเสียงพูดกันขึ้นอย่างอื้ออึง หัวหน้าชนเผ่าเห็นดังนั้นจึงได้โบกมืออีกครั้งให้ทุกคนนั้นสงบลงก่อน
“เชิญท่านผู้มาเยือนกล่าวต่อ”

“ด้วยเหตุนี้เอง ผู้พยากรณ์ของพวกเราจึงได้ส่งสารด่วนแจ้งข่าวให้พวกข้านั้นที่เป็นคณะสำรวจและอยู่ไม่ไกล ให้รีบมาที่นี่ก่อนเพื่อช่วยเหลือพวกท่านอย่างเร่งด่วนเพราะมันอาจเป็นสิ่งชั่วร้ายที่จะนำพาความหายนะร้ายแรงมาสู่พวกท่าน”

เมื่อทุกคนที่ได้ฟังเริ่มต่างรู้สึกยินดีกับการมาของชนเผ่าต่างถิ่น เมื่อเห็นดังนั้นแพนดอร่าได้กล่าวต่อ
“แต่พวกเราก็ไม่รู้ว่ามันเป็นสิ่งใดกัน เนื่องจากคำพยากรณ์จากเทพรัตติกาลที่ผู้พยากรณ์ของเรานั้นได้มาเป็นเพียงคำทำนายที่บอกใบ้มาในรูปแบบของปริศนา มีใจความกล่าวไว้ดังนี้”

แพนดอร่าได้นำม้วนหนังสัตว์ที่สลักอักษรออกมาและได้อ่านให้ทุกคนได้ฟัง

“ค่ำคืนราตรีอันเป็นนิรันดร์ของชนเผ่าบูชานกอมตะ
จะนำพาผู้กลืนกินความโกลาหล
จากท้องนภาอันห่างไกลมายังโลกา
เริ่มเพียงหยาดหนึ่งโลหิตของผู้เป็นดั่งราชา
จวบจนถึงผู้ซึ่งอันเป็นที่รักของวิหคอัคคีดับสิ้นลงด้วยความโศกา”

เมื่อจบคำพยากรณ์จากม้วนหนังสัตว์ แพนดอร่าได้สอบถามต่อ

“จากคำพยากรณ์นี้เหล่านี้ พวกเราพอคาดการได้คร่าวๆ ว่ามันคงเป็นบางสิ่งบางอย่างที่ตกลงมาจากท้องฟ้าช่วงเวลายามราตรีนิรันดร์ ช่วงนี้มีเหตุการณ์หรือสิ่งแปลกประหลาดเช่นนี้เกิดขึ้นกับพวกท่านบ้างหรือไม่?”

ทุกคนในเผ่าต่างพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ที่มีบางสิ่งบางอย่างตกลงจากท้องฟ้าและมันยังตกมาบริเวณไม่ไกลจากที่ตั้งของชนเผ่าอีกด้วย ระหว่างที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันอย่างสับสน

“ทุกคนโปรดเงียบก่อน” หัวหน้าชนเผ่าได้พูดขึ้น

“มีเหตุการณ์อย่างที่ท่านกล่าวมาและเหตุการณ์นั้นเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อคืนนี้เอง สถานที่เกิดเหตุนั้นอยู่ห่างไปไม่ไกลจากที่ตั้งของชนเผ่าของเรามากนัก”

“หากพวกท่านไม่รังเกียจพวกเรา ได้โปรดนำทางพวกเราไปยังสถานที่ดังกล่าวเพื่อตรวจสอบได้หรือไม่” แพนดอร่าเสนอ

“ได้ พวกข้ายินดีนำทางให้พวกท่าน” หัวหน้าเผ่าพูดพร้อมหยักหน้า จากนั้นเขาได้โบกมือเรียกนักล่าของชนเผ่าคนหนึ่งออกมา เมื่อแพนดอร่าหันกลับไปมองยังปลายทางของสัญญาณมือที่หัวหน้าชนเผ่าได้ทำ นางได้พบกับรอยยิ้มจากหญิงสาว รูปร่างปราดเปรียว สูงราว 170 เซนติเมตร อายุราว 20 ปี เส้นผมยาวสีส้มแซมเหลืองงดงามดุจอำพันถูกมัดรวบอย่างเรียบร้อย ผู้มีนัยน์ตาสีแดงฉานดุจโลหิตแต่แววตานั้นกลับอ่อนโยนจนสัมผัสได้

“อะแฮ่ม!” หัวหน้าเผ่ากระแอมเล็กน้อยก่อนเริ่มแนะนำตัวนักล่าสาว

“นี่คือ อาเดน่า หนึ่งในนักล่ามือดีของเรา นางจะเป็นผู้นำทางให้ท่านเอง” หัวหน้าเผ่าเอ่ยนำ

“ขอวิหคอัคคีอำนวยพรแด่ท่านแพนดอร่าและเหล่าผู้มาเยือน” อาเดน่ากล่าวทักทาย

แพนดอร่าได้สติกลับมากล่าวขอบคุณ

“เป็นเกียรติของพวกเราเช่นกันที่ได้ท่านมาเป็นผู้นำทาง”

“เราจะออกเดินทางกันเลยหรือไม่” อาเดน่าสอบถาม

“ถ้าเป็นไปได้พวกเราอยากออกเดินทางกันเลย ยิ่งเร็วยิ่งดีต่อพวกท่านเช่นกัน” แพนดอร่าตอบพร้อมมองดวงตาของนางอย่างหลงใหล

“ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าขอตัวไปยังกระโจมที่พักของข้าสักครู่หนึ่งเพื่อเตรียมตัว” อาเดน่ากล่าวและยิ้มให้อย่างเป็นมิตรก่อนเดินจากไป

“ข้าขอขอบคุณท่านที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือชนเผ่าของเราในครั้งนี้ หากท่านพบปัญหาอะไร ได้โปรดมาพบข้าได้ในทันที ขอวิหคอัคคีอวยพร” หัวเผ่าได้กล่าวพร้อมกับแสดงความเคารพต่อแพนดอร่าผู้ซึ่งมาในนามของตัวแทนเผ่าออราเคิลออฟทไวไลท์

“ท่านหัวหน้า...” หนึ่งในผู้ติดตามได้กระซิบเรียกแพนดอร่า

“ข้า...ขอบคุณท่านเช่นกัน” แพนดอร่าได้สติกลับมาพร้อมแสดงความขอบคุณอีกครั้ง

“ข้าจะนำท่านไปยังที่พักเพื่อเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง ได้โปรดตามข้ามา” หนึ่งในผู้ช่วยของหัวหน้าเผ่าได้กล่าวขึ้นมา

“ขอบคุณ” จากนั้นทุกคนได้ต่างแยกย้ายกันไป พวกแพนดอร่าได้ถูกนำมายังกระโจมที่พักผ่อนเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับการสำรวจจุดตกของอุกกาบาต

ตัดมาทาง อาร์พิน่าที่กำลังรอฟังข่าวจากพี่สาวอย่างใจจดใจจ่อ

หลังจากที่พี่สาวออกไป เธอก็ได้เล่นกระโดดกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับสมาชิกใหม่อย่างสนุกสนานจนลืมความตั้งใจก่อนหน้าไป สักพักเธอเริ่มมีความคิดอะไรสนุกๆ ขึ้นมาอย่างหนึ่ง

“มานี่เร็ว อิอิ”

ขณะที่เล่นอยู่นั้นเธอได้ลองคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนและเริ่มอยากลองทดสอบสิ่งต่างๆ กับไวท์สตาร์ดู

“นี่ มาดูกันสิว่าเจ้าทำอะไรได้บ้างกันนะ เจ้าขนปุยมานี่สิ อูยยยยยย”

เธอลองทดสอบจากพื้นฐาน ให้ไวท์สตาร์หัดวิ่งไปเก็บกิ่งไม้ เธอได้เดินไปหยิบกิ่งไม้ที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงมาโยนเล่นสั่งให้ไวท์สตาร์ไปคาบมาให้เธอ

“วูฟ...?”

“โถ่ เจ้าไม่รู้หรอนี่คืออะไร นี่กิ่งไม้ เจ้า ไปคาบมาเร็วจิ ไปเลย เอ้าฮึบ” จากนั้นเธอก็พยายามอธิบายอยู่หลายครั้งแต่มันก็ไม่เป็นผล ถึงแม้เธอจะพยายามแสดงท่าทางให้มันดูก็ตาม

“วูฟ วูฟ”

“คาบไง...คาบมาน่ะ...หื่มมมมมมม...อะ! งั้นลองนี่จากเจ้านี้ดูอีกทีแล้วกัน” เธอเดินไปหยิบผลไม้ที่ได้มาจากแม่เฒ่าแล้วเริ่มแกะมันออกแล้วนำไปให้ไวท์สตาร์ดม

“ฟืด ฟืด”

“นี่ ผลไม้อะ ลองกินสิ เอาใส่ปากแบบนี้แล้วก็เคี้ยวๆ” เธอได้แบ่งผลไม้ออกเป็นสองส่วน ครึ่งหนึ่งใส่ปากตัวเองอีกครึ่งใส่ปากไวท์สตาร์
“ง่ำๆๆ” “กรอฟ กรอฟ” ทั้งสองเคี้ยวผลไม้หวานช่ำอย่างเอร็ดอร่อย

“เวลากินเสร็จเจ้าต้องพูด ขอบคุณด้วยเข้าใจไหม? ขอบคุณ ขอ ออ บอ ขอบ คอ อุ นอ คุณ ขอบคุณน่ะ ขอบคุณ”

“วูฟ? วูฟ?” ไวท์สตาร์หันไปเคี้ยวผลไม้ต่ออย่างไม่ได้สนใจ

“ลืมไปเลยเจ้าเป็นหมาป่านี่เนอะ อิอิ” นางลืมไปว่ามันเป็นหมาป่าไม่ใช่มนุษย์จึงขำในความบ๊องของตัวเองที่ไปสอนให้หมาป่าพูด ฮาฮา

เธอนึกเรื่องที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งออก เธอจำได้ว่ามันหายตัวไปในเงาของเธอและโผล่ออกมาได้เช่นกัน เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงได้ทดสอบดู

“หื่ม...อ่ะ! ใช่แล้วเจ้าเข้ามาในนี้สิ” เธอพูดพร้อมชี้ลงไปยังเงาของเธอ

“วูฟ...?” ไวท์สตาร์ เอียงคอมองหน้าอาร์พิน่าอย่างสงสัย

“เอ๋! อะไรกัน! นี่ก็ไม่รู้เรื่องงั้นหรอ? ตรงนี้งายยยยย >o< มาตรงนี้ เงามืดๆ ตรงนี้นะ” เธอพยายามชี้ไปยังเงาของเธออย่างตั้งอกตั้งใจ

“อาร์พิน่าเจ้ากำลังทำบ้าอะไรของเจ้าอยู่กันน่ะ หาาาา?” อาเดน่าเดินเข้ามาในกระโจมพอดีขณะที่ อาร์พิน่ากำลังทำท่าทางแปลกๆ กับเงาตัวเอง

“อะ! พี่จ๋ากลับมาแล้ว! เป็นไงบ้างมีเรื่องอะไรน่าสนใจเล่าให้ข้าบ้างไหม?” เธอหันหลังกลับตอบพี่สาวอย่างรวดเร็วจนเกิดลมพัดเบาๆ

“อื้ม พี่กลับมาเอาของนิดหน่อยน่ะ เดี๋ยวพี่ต้องออกไปนำทางไปยังที่ที่เราไปมาเมื่อคืนนี้น่ะ”

“อ่าวแล้ว ไวท์สตาร์หายไปไหนแล้วนี่”

“อะ! เมื่อกี้มันยังอยู่ตรงนี้ อ๋อ! แบบนี้นี่เอง” เธอหันหลังกลับไปดูพบว่าไวท์สตาร์ไม่อยู่แล้ว เมื่อเธอจ้องมองไปที่เงาของเธออย่างตื่นเต้นจากนั้นเธอลองเอาสัมผัสดูก็ไม่พบอะไรเป็นพิเศษเป็นเพียงเงาปกติธรรมดาทั่วไป

“พี่อาเดน่าดูนี่นะ” หลังจากพูดเสร็จ เธอได้ชี้ไปยังเงาของเธอพร้อมกับทำท่าทางแปลกประหลาดอย่างตั้งอกตั้งใจอีกครั้ง

“ไวท์สตาร์ จงออกมา บู้มบู้ม” เงียบกริบ

“จงออกมา ฟิ้วววววว ฟิ้ววววว” เงียบกริบ x2

“จงมานี่ จงปรากฏต่อหน้าข้า” เงียบกริบ x3

“ไวท์สตาร์ ข้าเลือกเจ้า” เงียบกริบ x4

“555 อาร์พิน่าเจ้าทำท่าอะไรของเจ้ากันน่ะ”

“ทำไม! ไวท์สตาร์ไม่ออกมากันนะ! หึหึ!” อาร์พิน่าทำท่าผิดหวังพร้อมกับอาการงอนแก้มป่องแต่ไม่นานก็เกิดมีลมพัดเบาๆ ขึ้น แล้วเงาที่ดูปกตินั้นได้แยกออกเป็นร่างเงาอีกร่างขึ้นมาพร้อมกับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตัวเองจนกลายเป็นราชาหมาป่าดวงจันทร์อีกครั้ง

“อะ! เจ้าออกมาแล้ว! อิอิ มานี่สิ อูยยยยย นุ่มนิ่มจุงงงงง” อาร์พิน่ากระโดดกอดไวท์สตาร์อย่างตื่นเต้นดีใจ
อาเดน่าตกใจกับภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าและคิดในใจ

‘เจ้านี่ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด ข้าไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย มันสามารถเข้าสิงสู่ในเงาของคนอื่นได้แบบนี้มันสามารถไปสิงสู่คนอื่นได้ไหมนะ แล้วมันคงจะไม่เป็นอันตรายแก่เจ้าของที่มันสิงสู่ใช่ไหมนะ แต่แบบนี้ก็ดีมันออกจะไม่สะดุดตาคนอื่นด้วย’ ระหว่างที่เธอพึมพำคิดอยู่นั้น

“เป็นไงพี่จ๋า! เจ้านี่สุดยอดไปเลยใช่ไหม!! หายตัวไปในเงาของข้าได้ด้วยละ! อิอิ”

“อ่า” ด้วยเสียงอวดอ้างอันแสนสดใสทำให้เธอเลิกคิดถึงเรื่องอื่นๆ ไปชั่วขณะ จากนั้นเธอได้ลองถามอาการความรู้สึกตอนเงาออกมาและวิธีการแปลงร่างของเจ้าสิ่งมีชีวิตตรงหน้าเป็นเงากับอาร์พิน่าดู

“เจ้านี่ทำแบบนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แล้วเจ้ารู้สึกยังไงบ้างเวลามันโผล่ออกมาหรือมันเวลาหายไป”

“อืมมมม ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้าแค่เพิ่งนึกได้น่ะ ว่าเจ้านี่มันหายไปและโผล่ออกมาจากเงาของข้าได้ แต่ เอ... ถามว่ารู้สึกหรือทำได้ยังไง ข้าเองก็บอกพี่ไม่ถูกเหมือนกัน บางทีข้าก็แค่คิดมันเหมือนจะเข้าใจ แต่บางทีข้าลองบอกให้มันทำมันก็ดูเหมือนไม่เข้าใจ ข้าก็บอกท่านพี่ไม่ถูกน่ะ แต่ที่ข้าบอกได้คือข้าสัมผัสตรงที่มันอยู่แล้วก็คิดคล้ายๆ กับอธิฐานละมั้งนะ อิอิ”

“.......” หลังจากอาเดน่าฟังคำตอบของอาร์พิน่าก็งุนงงจนบอกไม่ถูก เอาเป็นว่า เจ้านี่มันเหมือนจะทำตามความรู้สึกของอาร์พิน่าได้ละมั่งนะ แต่ตอนนี้เธอไม่มีเวลามาคิดและทดลองอย่างละเอียด เธอได้เดินไปเตรียมสิ่งของจำเป็นเพื่อการเดินทางไปยังสถานที่อุกกาบาตตกลงมาเมื่อคืน

ไม่นานนักก็มีเสียงกลุ่มคนเดินมาทางกระโจมของนาง

“ท่านอาเดน่า ท่านเตรียมตัวพร้อมแล้วหรือไม่” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งส่งเสียงเรียกนางจากหน้ากระโจม

“เสียงใครมาตามท่านน่ะพี่จ๋า” อาร์พิน่าถามอย่างสงสัย เกิดลมพัดไวท์สตาร์หายไปในเงาอีกครั้ง

“น่าจะเป็นคนที่พี่ต้องไปนำทางน่ะ”

“จริงหรอ ข้าขอไปดูหน่อย”

“เดี๋ยว! อาร์พิน่า” พูดไม่ทันขาดคำน้องสาวจอมซนก็วิ่งออกไปจนถึงทางเข้ากระโจม แต่เธอก็ได้ชนเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาตรงทางเข้าของกระโจมพอดี

“อ่ะ!” นางได้ล้มลงและตกใจนิดหน่อยที่จู่ๆ ก็มีคนเข้ามา

“เอะ! เป็นอะไรไหม? หนูน้อย” เมื่ออาร์พิน่ามองขึ้นไปก็พบกับสาวสวยในชุดคลุมแปลกตาที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน

“ว้าววววว!! อ่ะ! ขะ...ข้าไม่เป็นไร! ท่านเป็นใครกัน? มาหาท่านพี่ของข้างั้นหรอ”

อาเดน่าที่กำลังหยิบของอย่างเร่งรีบได้วิ่งออกมาดูน้องสาวของเธอก่อนและได้กล่าวคำขอโทษแก่แพนดอร่า

“ข้าขอโทษในความซุกซนของน้องสาวข้าด้วย ท่านได้โปรดอย่าได้ถือสาความซุกซนของนางเลย”

“ข้าไม่เป็นไร...เจ้าไม่ต้องคิดมาก น้องสาวของท่านก็เหมือนน้องสาวของข้าเช่นกัน” แพนดอร่าตอบอย่างสุภาพพร้อมยื่นมือไปช่วยสาวน้อยที่กำลังลุกขึ้น

“ข้าชื่อ แพนดอร่า มาจากเผ่า ออราเคิลออฟทไวไลท์ ฝากตัวด้วยนะ”

“ข้า ชื่อ อาร์พิน่า ยินดีที่ได้รู้จักท่านเช่นกัน ข้านั้นชอบ....” ก่อนที่อาร์พิน่าจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ อาเดน่าได้ดึงนางออกมาแล้วบอกให้นางอยู่ที่กระโจมรอนางกลับมาพร้อมกับมื้อเย็น

“เอาละ เมื่อท่านเตรียมตัวพร้อมแล้ว เราเริ่มออกเดินทางกันเถอะ นี่ก็ผ่านยามทิวามาแล้ว” แพนดอร่าพูดพร้อมเดินออกมารอด้านของนอกกระโจม

“เดี๋ยวพี่กลับมานะ พี่ไปไม่นาน”

“พี่ต้องออกไปอีกแล้วหรอ ข้าอยากไปด้วยจังงงงงง พี่ก็รู้นี่ ความฝันของข้าคือการออกพจญภัยโลกกว้างกับท่านพี่นะนะนะนะนะ”

“เฮ้อ อาร์พิน่า...” ก่อนที่นางจะพูดต่อ อาร์พิน่ารีบยกมือขึ้นมาหยุดอาเดน่าและพูดแทรกทันที

“โอเคร...โอเคร...ท่านพี่ข้าเข้าใจแล้ว...ข้าจะเป็นเด็กดีเชื่อฟังท่านพี่คอยอยู่ในกระโจม...โอเคร?”

“เฮ้อ…ดีมาก” จากนั้นนางก็ลูบหัวอาร์พิน่าอย่างอ่อนโยนและเดินออกจากกระโจมไป

ด้านนอกกระโจมของอาเดน่า

“ท่านหัวหน้า” ผู้ติดตามคนหนึ่งในกลุ่มของแพนดอร่าได้เข้ามากระซิบแจ้งบางสิ่งกับแพนดอร่า

“อืม...ข้าเข้าใจ” แพนดอร่าตอบกลับลูกน้อง พอดีกับอาเดน่าเดินออกมาจากกระโจม

“งั้นพวกเราออกเดินทางกันเลยเถอะ ข้าจะนำทางพวกท่านเองตามข้ามาได้เลย” อาเดน่า เดินนำทางไปยังสถานที่ที่อุกกาบาตตกทันทีพร้อมกับกลุ่มคนของแพนดอร่า

การมาของชนเผ่าออราเคิลออฟทไวไลท์ ที่มีผู้นำในการเดินทางครั้งนี้คือแพนดอร่า เธอได้มาพบกับอาเดน่านักล่าฝีมือดีจากชนเผ่าอิกไนเฟรม พวกเขาได้ออกเดินทางมุ่งหน้าตรงไปยังสถานที่ที่เกิดหลุมอุกกาบาตเพื่อสำรวจตามหาบางสิ่ง เหตุการณ์ช่างนำพาโชคชะตาของผู้คนให้มาพบกันและเหตุการณ์หลังจากนี้จะเป็นเหมือนดังก่อนพายุใหญ่จะมาคลื่นลมมักเงียบสงบเสมอหรือไม่....



To be Continued...





สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารอัฟเดทและทริคการเล่นได้ที่ https://whitestargamer.blogspot.com
หรือที่แฟนเพจ
 https://facebook.com/Whitestar 
YouTube: 
https://www.youtube.com/channel/UCsDZgcn56TT0wkb_BOyWxxA