เงามืดที่ไร้เสียง (The Silent Shadow)
กลุ่มนักสำรวจแปลกหน้าที่ได้เดินทางมาจากชนเผ่าออราเคิลออฟทไวไลท์
ซึ่งมีผู้นำกลุ่มในครั้งนี้คือ แพนดอร่า พวกเขานั้นได้ออกเดินทางกันอย่างเร่งรีบเพื่อตรวจสอบคำพยากรณ์ที่ได้รับมา
จนตอนนี้พวกเขาได้เดินทางกันจนใกล้ถึงยังจุดหมายปลายทาง ณ สถานที่ที่อุกกาบาตนั้นได้ตกลงมาเมื่อคืนโดยมีนักล่าสาวฝีมือดีจากเผ่าอิกไนท์เฟลมเป็นผู้นำทางให้อย่างอาเดน่า
“ข้างหน้าอีกไม่ไกล พวกเราก็จะถึงที่หมายกันแล้ว”
“ยอดเยี่ยม รวดเร็วสมเป็นนักล่าฝีมือฉกาจจากชนเผ่านกอมตะ
ท่านอาเดน่า” เหล่าผู้ร่วมเดินทางกล่าวชมอาเดน่า
“ยังไงพวกท่านโปรดระมัดระวังตัวด้วย เนื่องจากพื้นที่นี้มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก
อาจพบสิ่งที่เป็นอันตรายต่อพวกเราได้” อาเดน่าบอกให้แพนดอร่ารับรู้ถึงเส้นทางข้างหน้าและเพื่อเตรียมตัวรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้
แพนดอร่า
โบกมือส่งสัญญาณบางอย่างให้แก่เหล่าผู้ติดตาม เมื่อเหล่าผู้ติดตามเห็นก็ได้แบ่งกำลังกันออกเป็น
3 กองย่อย แยกขนาบข้างซ้ายขวาของแพนดอร่า จากนั้นพวกเขาเร่งฝีเท้าเดินทางกันต่อจนในที่สุดก็มากันจนถึงสุดเขตป่าที่และข้างหน้าก็คือหลุมขนาดใหญ่มากมายที่ได้รับผลกระทบจากหินอุกกาบาตเมื่อคืน
“ต่อไปทางเดินค่อนข้างจะลำบากเนื่องจากมันได้รับผลกระทบจากหินดวงดาราที่ตกมาจากท้องฟ้าหล่นกระแทกใส่จนพื้นผิวนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปมาก
บางส่วนกลายเป็นหลุมลึกพวกท่านระวังกันด้วย”
“ขอบใจเจ้ามากที่เป็นห่วงข้า” แพนดอร่าตอบ
จากนั้นอาเดน่าได้ชูมือเป็นสัญญาณให้ทุกคนหยุดก่อนเพราะนางได้ยินเสียงฝีเท้าของบางสิ่งที่กำลังมุ่งตรงมาทางนี้
!!! แซกๆ แซกๆ !!!
เสียงพงหญ้าสั่นไหวดังมาจากป่าด้านหลัง
“มีบางอย่างกำลังเข้ามาใกล้! มันใกล้เข้ามาแล้วอีกไม่กี่อึดใจ” อาเดน่าร้องเตือน
แพนดอร่า กำมือให้ทุกคนหยุดการเคลื่อนไหว
จากนั้นโบกมือให้ทีมด้านขวา เตรียมตัวจู่โจมเมื่อเห็นเป้าหมาย
ส่วนทีมทางด้านซ้ายได้เตรียมตัวตั้งรับ
ชั่วพริบตาเหล่าผู้ติดตามส่งสัญญาณกลับให้แพนดอร่าทราบว่าพวกเขาพร้อมรับคำสั่งจู่โจมทุกเมื่อ
แซกๆ แซกๆ แซกๆ แซกๆ
ไม่กี่อึดใจต่อมาก็เผยให้เห็นร่างที่ปรากฏเป็นร่างของหมาป่าสีดำตัวใหญ่ที่กระโจนออกมาจากพงหญ้าอย่างน่าเกรงขามพร้อมด้วยสาวน้อยตัวเล็กที่กอดอยู่บนหลังของมันโดยมีทีท่าที่ขี่มันมาอย่างสนุกสนาน
“บรู๊วววววววววววววววววว!”
“ยะฮู้! สนุกสุดๆไปเลย! ยะฮู้!” เสียงร้องอย่างสนุกสนานของสาวน้อยผู้ขี่ราชาหมาป่าขนสีดำ
“ช้าก่อนทุกคน! อย่าเพิ่งจู่โจม” อาเดน่าร้องเตือนอย่างเร่งรีบอีกครั้ง
เมื่อราชาหมาป่าสีดำได้หยุดเคลื่อนไหวลงตรงหน้าพวกเขา
แพนดอร่าสังเกตอย่างระแวดระวังอีกครั้งจึงเห็นว่าเด็กสาวที่อยู่บนหลังราชาหมาป่าสีดำตัวใหญ่นั้นก็คือ
เด็กหญิงตัวน้อย อายุเพียง 9-10 ปี ผู้มีเส้นผมสีแดงเพลิงราวนกอัคคี นัยน์ตานั้นมีสีแดงฉานราวกับอัญมณีทับทิม
นางคือเด็กสาวผู้ที่พบกันก่อนหน้านี้ที่เต้นของนักล่าสาวอาเดน่า เป็นใครไปไม่ได้นอกจากน้องสาวตัวป่วนสุดที่รักของอาเดน่า
เด็กสาวคนนั้นผู้มีนามว่า อาร์พิน่า
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ตัดฉากกลับมายังกระโจมของอาเดน่าและอาร์พิน่า
หลังจากที่ทุกคนออกเดินทางจากไป อาร์พิน่า ได้กลับเข้ามาไปในกระโจมของตัวเอง
จากนั้นนางได้เรียกไวท์สตาร์ให้ออกมาจากเงาของนางอีกครั้ง
“เจ้าออกมาได้แล้ว”
“วูฟ” ร่างราชาหมาป่าดวงจันทร์สีดำปรากฏออกมาจากเงาของอาร์พิน่าอีกครั้ง
“พี่อาเดน่านั้นบอกให้ข้ารออยู่บ้านอีกแล้วอะ...ข้าล่ะเบื่อที่สุด! ชิชิ!” นางบ่นอุบกับไวท์สตาร์
“แล้วเราจะทำอะไรกันดีน๊าาาาาาา” นางพูดขึ้นพร้อมกับลูบพุงไวท์สตาร์เล่นไปพลางๆ
“หืมมม หรือเล่นดีนะแต่ว่าเราจะเล่นอะไรกันดีนะ” ระหว่างที่เธอลูบพุงเล่นสมาชิกใหม่ของบ้านอยู่นั้น นางได้มองเหลือบไปเห็นว่าพี่อาเดน่าดันลืมนำยาสมานแผลจากแม่เฒ่าติดตัวไปด้วย
“อะ! พี่สาวลืมยาจากท่านย่านี่นา
แย่แล้วทำไงดีน๊อออออ” ระหว่างพึมพำกับตัวเองนางได้เดินไปหยิบห่อยาขึ้นมา
“แต่พี่สาวบอกให้ข้ารออยู่ที่นี่ หื่มมมมมมม งึมๆๆๆ”
อาร์พิน่า ยืนเอานิ้วอันน้อยนิดจิ้มหัวตัวเองแล้วคิดอย่างจริงจัง
แต่ไม่นานนางก็ได้คำตอบ
“งั้นข้าต้องเอานี่ไปให้พี่สาวแล้วสินะ อิอิ” ยังไงนางก็อยากออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกอยู่แล้วตอนนี้มีข้ออ้างจะอยู่แต่ในกระโจมอันน่าอึดอัดไปทำไมกันจริงไหม
“เอาละไปกันเถอะ ไวท์สตาร์ ตามกลิ่นนี่ไป” อาร์พิน่าหยิบกระเป๋าสะพายข้างสำรองของพี่ให้ไวท์สตาร์ดมและนำยาใส่ลงไปในกระเป๋าด้วย
“วูฟ วูฟ”
ไวท์สตาร์ขานรับพร้อมกับคาบอาร์พิน่าขึ้นหลังของตัวเอง
“การพจญภัยของพวกเราได้เริ่มขึ้นแล้ว! ยะฮู้!” ไวท์สตาร์วิ่งออกจากกระโจมและมุ่งไปในทิศทางของอาเดน่าอย่างรวดเร็ว
ทั้งสองได้ออกเดินทางโดยมีเป้าหมายคือ
อาเดน่าและกลุ่มนักสำรวจของแพนดอร่า ด้วยความเร็วของราชาหมาป่าดวงจันทร์การเดินทางจึงใช้เวลาไม่นานนัก
เมื่อทั้งสองได้ติดตามจนมาถึงบริเวณใกล้กับหลุมอุกกาบาต
พวกเขาก็ได้พบกับกลุ่มคนที่พวกเขากำลังตามหาอยู่ตรงหน้า
อาร์พิน่าไม่รอช้าสั่งให้ไวท์สตาร์กระโดดออกไปด้วยความเร็วแบบเท่ๆ เพื่อเซอร์ไพรส์พี่สาวของเธอ
“ยะฮู้!”
กลับมายังปัจจุบัน อาร์พิน่าที่กำลังโดนอาเดน่าสวดชุดใหญ่
(*- [ ] -) @#$#@% (0 . 0)......
“อาร์พิน่า!
ไหนเจ้าบอกพี่ว่าจะเชื่อฟังรอพี่อยู่ที่บ้านยังไง!” อาเดน่า
“อ่า...พี่จ๋าหนูขอโต๊ดดด...งือออออ (T^T) หนูสำนึกผิดแย้วนะ ยกโทษให้หนูเถอะนะ” อาร์พิน่า
ทำหน้าทำตาอ้อนพี่สาวเมื่อเห็นอาการโมโหที่เกิดขึ้นบนใบหน้าของพี่สาว
“คือ ข้า เอ่อ คือ”
“เจ้าจะอ้างอะไรอีกหือ!!!”
........ “คือ ว่า
พี่สาวลืมนี่น่ะ”
อาร์พิน่าได้หยิบห่อยาสมานแผลออกมาให้พี่สาว
อาเดน่าเห็นก็
เข้าใจในความปรารถนาดีของน้องสาวแต่ว่านางก็ยังอดเป็นห่วงน้องสาวไม่ได้
“เห้อ! เจ้านี่นะ! ไม่รู้หรอว่าในป่าตอนนี้มันอันตรายน่ะ แล้วอีกอย่างเจ้าก็แอบออกมาคนเดียวด้วย”
“วูฟ!” ไวท์สตาร์เห่าตอบ
ให้รู้ว่ายังมีมันด้วย
ขณะที่แพนดอร่ามองดูสถาณการณ์อยู่อย่างระมัดระวังและดูเหมือนว่าเหตุการณ์ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วจึงได้เข้ามาพูดคุยกับทั้งสองอย่างใจเย็น
“เอาน่าท่านอาเดน่า
น้องสาวของท่าตามมาด้วยเจตนาดี”
แพนดอร่าพูดพร้อมกับชี้ไปยังห่อยาและมองดูหน้าสาวน้อยที่โดนดุอย่างน่าสงสาร
“ยังไงข้าว่าให้นางติดตามพวกเราไปก็ได้
ไหนๆนางก็มาแล้ว อีกทั้งนางจะได้อยู่ในการดูแลของท่านตลอดเวลาด้วย”
“คือแต่ว่า....” อาเดน่าจะพูดต่อแต่แพนดอร่าพูดตัดบท
“ไม่เป็นไรหรอกข้าเข้าใจท่าน ในเมื่อสถานการณ์ตอนนี้ไม่มีเหตุการณ์ที่ส่อแววเป็นอันตรายอะไรอีกทั้งหากเกิดอะไรขึ้นพวกท่านวางใจพวกเราได้
กลุ่มของพวกเรานั้นแข็งแกร่งไม่เป็นรองหน่วยจู่โจมของกองทัพแน่นอน
พวกเราออกเดินทางกันต่อเถอะ”
แพนดอร่าทำสัญญาณมืออีกครั้งเหล่าผู้ติดตามก็ตั้งแถวขนาบข้างเหมือนเดิม
เตรียมพร้อมออกเดินทางต่อ
“ขอบคุณท่านแพนดอร่าที่เข้าใจ”
“เจ้าตามพี่มาอาร์พิน่า เจ้าด้วยไวท์สตาร์”
“ได้จ้า” “วูฟ” อาร์พิน่ายิ้มอย่างดีใจ
เมื่อเรื่องราวทุกอย่างได้คลี่คลายลง
คณะสำรวจได้ออกเดินทางสำรวจต่อจนมาถึงที่หมาย ณ ใจ กลางหลุมลึกของอุกกาบาต
“เรามาถึงใจกลางของหลุมลึกแล้ว ตรงนี้น่าจะเป็นจุดที่มีบางสิ่งบางอย่างตกลงมา” อาเดน่าบอกแก่แพนดอร่า
“พวกเจ้าทุกคน หากพบสิ่งใดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนให้เรียกข้า
เอ้า! แยกย้ายกันค้นหาได้”
แพนดอร่าได้ปรบมือหนึ่งครั้งเป็นสัญญาณจากนั้นทุกคนได้ต่างกระจายตัวกันออกสำรวจเป็นวงกลมเพื่อมองหาสิ่งของที่ตกลงมาจากท้องฟ้า
“พี่จ๋าคือว่า...” อาร์พิน่าพยายามจะบอกบางสิ่งกับอาเดน่า
“อืม พี่รู้ เจ้าเงียบไว้ก่อน” อาเดน่าพยักหน้าเข้าใจว่าน้องสาวพยายามจะสื่ออะไร เพราะว่านางจำเรื่องราวต่างๆที่น้องสาวเล่าให้ฟังได้
สิ่งที่แพนดอร่ากำลังตามหาอยู่นั้นมันก็คือ ไวท์สตาร์ นั่นเอง แต่พวกเธอยังไม่รู้ถึงเป้าหมายของการค้นหาในครั้งนี้ว่าต้องการนำไวท์สตาร์ไปทำอะไร
เพราะว่าเหตุผลของการมาเพื่อช่วยเหลือพวกเรานั้นน่าจะเป็นข้ออ้างมากกว่า
จากหนึ่งในชนเผ่าผู้มีอำนาจอย่างเฉกเช่นชนเผ่าออราเคิลออฟทไวไลท์ นั้นหรือจะมาช่วยเหลือเผ่าเล็กๆที่อยู่ห่างไกลมันจะต้องมีอะไรแอบแฝงเป็นแน่
และนี่เองก็คงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่นางได้ถูกให้รับเลือกมาเป็นผู้นำทางจากหัวหน้าชนเผ่า
หัวหน้าชนเผ่าเองก็คงต้องการรู้เหตุผลที่แอบแฝงนี้เช่นเดียวกันจึงได้ส่งนางมา
ท่านย่าคนทรงคงได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้กับหัวหน้าชนเผ่าทราบแล้วดังนั้นเพื่อค้นหาถึงจุดประสงค์ของผู้มาเยือนในครั้งนี้
นางคิดว่าเมื่อทราบถึงเหตุผลแล้วจะรีบปลีกตัวไปเพราะเส้นทางที่นางนำมานั้นเป็นเส้นทางที่อ้อมและยังค่อนข้างลำบากทุลักทุเลสำหรับการเดินทางหากไม่มีผู้เชี่ยวชาญพื้นที่นำทางมาแต่ทว่าก็เกิดเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในแผนที่วางไว้คืออาร์พิน่าดันตามมาพร้อมกับไวท์สตาร์นั่นเอง
‘...ข้าควรจะทำอย่างไรต่อดี...’ นางคิดในใจ
“เจ้าคอยอยู่ข้างๆพี่ไว้ล่ะ
แล้วก็อย่าให้ไวท์สตาร์เข้าๆออกๆเงาของเจ้าตอนนี้นะ”
อาเดน่ากระซิบบอกน้องสาวที่นั่งอยู่บนหลังไวท์สตาร์
หงึก หงึก อาร์พิน่าพยักหน้าตอบพี่สาว
ตึกๆ ตึกๆ มีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาจากทางด้านหลังของทั้งสองคน
“พวกท่านเจอสิ่งอะไรแปลกตาบ้างไหม?” เป็นเสียงพูดของหญิงสาว
“พวกเรายังไม่เจออะไรเลยเหมือนกัน” อาเดน่าหันกลับไปตอบพบว่าเป็นแพนดอร่า
“ข้าเพิ่งสังเกตเห็น เมื่อดูดีๆแล้วนี่มันเป็นราชาหมาป่าดวงจันทร์นี่นา”
“รูปร่างของมันช่างแข็งแกร่งรวมทั้งแววตาอันดุดันนี่และอีกทั้งขนอันสง่างามนั่นอีก”
แพนดอร่าพรรณนาถึงไวท์สตาร์ผู้ที่อยู่ตรงหน้าอย่างหลงใหล
“ผู้เป็นราชาแห่งพงไพรยามราตรีนิรันดร์ แต่ปกติแล้วมันค่อนข้างจะหยิ่งทะนงในศักศรี
ข้าอยากรู้จริงๆ น้องสาวของท่านทำอย่างไรถึงฝึกมันได้กัน ได้โปรดบอกเคล็ดลับนี้แก่ข้าได้หรือไม่”
‘จิส’ แย่ละอาเดน่ายังไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้นางไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรดี
“คือว่าข้านั้นไปเจอมันตอนมันกำลังนอนบาดเจ็บสาหัสมากๆอยู่น่ะ
เมื่อเห็นอาการของมันแล้วข้าก็อดสงสารมันไม่ได้ แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีเพื่อช่วยมันข้าเลยไปตามพี่สาวผู้เก่งกาจของข้ามาช่วยเหลือมันในตอนนั้นหลังจากนั้นมันหายดีแล้วมันก็เชื่องกับข้าและพี่สาว
จากวันนั้นจนวันนี้พวกเราก็อยู่ด้วยกันมาตลอดเลย”
อาร์พิน่าแต่งเรื่องเล่าอย่างฉับพลัน
พร้อมด้วยการพยักหน้าอย่างเห็นด้วยจากอาเดน่า
“หืมมมมม เรื่องเป็นเช่นนี้นี่เอง หายาก
ช่างเป็นเรื่องที่หายากยิ่งนัก ท่านอาร์พิน่าท่านช่างเด็กสาวผู้ใจดีแก่เหล่าสรรพสัตว์ยิ่งนัก
ข้าหวังว่าในอนาคตท่านคงจะต้องเป็นผู้ฝึกสัตว์ที่เก่งเป็นแน่แท้”
แพนดอร่ากล่าวชื่นชมอาร์พิน่าพร้อมกับเผยให้รอยยิ้มที่มีความนัยแอบแฝง
“เอาล่ะ เดี๋ยวข้าไปหาดูทางนั้นเพิ่มเติมอีกสักหน่อย
ยังไงข้าว่าถ้าหากเรายังไม่เจออะไรในวันนี้ พวกเราอาจจะต้องค้างแรมกันที่นี่สักคืน
พวกท่านไม่ต้องกังวลเรื่องที่พักพวกข้าจะเตรียมเผื่อพวกท่านเอว” แพนดอร่าพูดพร้อมขยิบตาข้างขวาให้อาเดน่าอย่างมีเลศนัยแล้วเดินจากไป
‘ฟูววว’
อาร์พิน่าถอนหายใจ
“เจ้าแต่งเรื่องได้แนบเนียนมาก” อาเดน่ากระซิบพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้น้องสาว
“อิอิ”
“วูฟ”
จากนั้นทั้งสามก็ได้เดินแกล้งทำเป็นสำรวจพื้นที่บริเวณนั้นต่อจนกระทั่งตะวันคล้อยรอยเลื่อนเคลื่อนใกล้ลับตาลง
เวลานั้นได้ล่วงเลยมาจนพลบค่ำ ทุกคนต่างหยุดพักการค้นหาสำรวจลงและเริ่มตั้งค่ายที่พักแรมกัน
กลุ่มของอาเดน่าได้นั่งล้อมวงก่อกองไฟกันโดยมีแพนดอร่าและผู้ติดตาม
2 คนรวมอยู่ด้วยและกลุ่มผู้ติดตามของแพนดอร่าคนอื่นๆนั้นได้แบ่งกลุ่มกันเป็นทั้งหมด
4 กองไฟโดยตั้งกองไฟล้อมรอบ 4 ทิศเพื่อระวังภัย และมีกลุ่มของแพนดอร่าที่เป็นศูนย์กลางคอยบัญชาการ
หลังจากจบการประชุมของระดับหัวหน้าของเหล่าผู้ติดตามก็ถึงเวลาพักผ่อน
ทุกคนต่างแยกย้ายไปประจำกองแคมป์ไฟที่พักของตัวเอง
เปรี๊ย เปรี๊ย เสียงไม้ดีดไหม้ในกองไฟแคมป์ปิ้ง
เหล่าสมาชิกผู้ติดตามของแพนดอร่าได้พูดคุยพักผ่อนกันอย่างผ่อนคลาย
“ฮ่า...บรรยากาศแถวนี้ช่างเหมาะแก่การแคมป์ปิ้งเนอะว่าไหม? ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงามและเงียบสงบ”
“ใช่เลยข้าเห็นด้วยแต่เสียได้ข้าไปออกล่ามาเมื่อกี้
แต่แถวนี้ไม่เจอกระต่ายป่าหรือสัตว์ตัวเล็กๆเลยช่างน่าเสียยิ่งนัก”
“โถ่...เจ้ามันยังอ่อนหัดนัก...ดูโน้น” ผู้ติดตามชี้นิ้วให้เพื่อนดูเพื่อให้เห็นชัดถึงนักล่าผู้ชำนาญพื้นที่
ที่กลับมาพร้อมกับเหยื่อเต็มมือ อาเดน่าที่เดินมาพร้อมกับมือข้างหนึ่งที่มีกระต่ายป่าและกระเป๋าเป้ใส่ของบนหลังไวท์สตาร์ที่เต็มไปด้วยผลไม้ป่า
“ข้าละอิจฉาจริงๆ เฮ้อ ข้าน่ะอยากที่จะลองลิ้มรสชาติอาหารป่า อุตส่าห์ได้มาเยือนที่นี่ทั้งที”
“เอาน่าอย่างน้อยพวกเราก็ยังมีเจ้านี่”
“เนื้อแห้ง +o+ เนื้อแห้งเนี่ยนะ
-.-* เหอๆๆ”
“ข้าละเบื่อเจ้านี่จริงๆ ง่ำๆ” เขาบ่นแต่มือก็คว้าเนื้อจากมือเพื่อนไปกิน
“เอาน่ากินไปเถอะเจ้านะอย่าบ่นมาก ฮาฮา”
กลับมาทางอาเดน่า
“ข้ากลับมาแล้ว! มื้อนี้ข้ามีของมาฝากท่านด้วยหวังว่าพวกท่านจะทานกันได้นะ” อาเดน่าเดินเข้ามาพร้อมกับโชว์เหยื่อที่ล่าได้ในคืนนี้มันคือกระต่ายป่าและผลไม้ป่าอีกเต็มกระเป๋า
“โอ้ มื้อนี้พวกข้าลาภลอยแล้วล่ะ” ผู้ติดตามทั้งสองคนของแพนดอร่ากล่าวพร้อมกับรับเนื้อกระต่ายป่าและผลไม้ป่าจากอาเดน่ามา
“ขอบคุณท่านมากเลย ท่านอาเดน่า
ที่หาอาหารมาเผื่อพวกเราด้วย”
“เพื่อเป็นการตอบแทนเดี๋ยวข้า นำซุปสูตรพิเศษนี้ไปให้ท่านเมื่อมันพร้อมทานนะขอรับ”
“ขอบใจพวกท่านมาก แต่ไม่เป็นไร ข้ากับพวกน้องสาว
แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ” อาเดน่าตอบอย่างเกรงใจเพราะนางยังไม่ไว้ใจฝ่ายตรงข้ามมานัก
“อย่าได้เกรงใจไปเลยท่านอาเดน่า เชื่อรสมือข้าได้แน่นอน
ข้ารับรองซุปสูตรพิเศษนี้จะต้องถูกใจพวกท่านเป็นอย่างมากแน่นอนขอรับ (^.^)b”
“โอเคร โอเคร ข้าขอขอบคุณท่านล่วงหน้างั้นเดี๋ยวพวกเราขอตัวไปทำมื้อเย็นของพวกเราก่อนนะ” อาเดน่าจากไปหาที่เหมาะๆ เพื่อก่อกองไฟทำเนื้อกระต่ายย่าง กองไฟของทั้งสองกลุ่มนั้นอยู่ไม่ห่างกันมากนักเพราะอาเดน่าต้องการสืบเรื่องราวต่อด้วย
จากนั้นนางเริ่มทำการชำแหละร่างของกระต่ายป่าและนำมันมาเสียบกิ่งไม้ที่เตรียมไว้ย่างอย่างพิถีพิถัน
พร้อมกับเตรียมสับหั่นสมุนไพรที่เจอในป่าไว้เป็นเครื่องเคียง
ส่วนอาร์พิน่านำผลไม้ป่าที่หาได้นำออกมาวางเรียงรอพี่สาวพร้อมกับมีไวท์สตาร์นอนอยู่ข้างๆ
เวลาผ่านไปสักพัก แพนดอร่าก็ได้เดินกลับมาหลังจากได้ไปพูดคุยกับผู้ติดตามคนอื่นๆ
“ดูเหมือนว่าวันนี้โชคไม่เข้าข้างเราเท่าไหร่…เห้อ…” แพนดอร่าพูดพร้อมถอนหายใจ
“ยังไม่เจออะไรที่บ่งบอกถึงสิ่งนั้นเลย ข้าหวังว่าพรุ่งนี้เราจะเจอของตามคำพยากรณ์” อาเดน่าเห็นแพนดอร่าพูดถึงคำพยากรณ์เป็นจังหวะที่ดีเลยเอ่ยถามเกี่ยวกับคำพยากรณ์เพิ่มเติม
“ข้าสงสัยท่าน แพนดอร่า
หากท่านเจอสิ่งที่ตามหาแล้วท่านจะทำอย่างไรกับมันอย่างนั้นหรือ?”
“หืม? ท่านสงสัยอย่างนั้นหรอ?”
แพนดอร่าคิดอยู่สักครู่หนึ่งจากนั้นนางได้พูดต่อ
“อืมมมม...จากกำหนดการพวกเรานั้นเป็นเพียงคนที่มาตรวจสอบและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุอันตรายกับพวกท่านหากสิ่งที่พบนั้นมีไม่มีอันตรายจนเกินไป
พวกเราน่าจะต้องนำเจ้าสิ่งนั้นกลับไปยังเผ่าเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดกับผู้พยากรณ์อีกครั้งหนึ่งน่ะ
เพราะดูเหมือนว่าคำพยากรณ์ที่พวกเราได้รับมายังเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง”
แพนดอร่าตอบพร้อมกับมองไปยังผู้ติดตามที่ทำท่าทางแสดงให้เห็นว่าซุปสูตรพิเศษนั้นพร้อมแล้ว
“ข้าก็หวังแบบนั้นเช่นกัน
ขอให้มันไม่มีอันตรายใดๆ เกิดขึ้นเลย” อาเดน่าตอบ
“ซุปเสร็จเรียบร้อยแล้วขอรับท่านแพนดอร่า” ผู้ติดตามบอกพร้อมกับยื่นถ้วยให้แพนดอร่า
“เยี่ยมไปเลย”
“กลิ่นซุปหอมหวานชวนให้น่าหลงใหลยิ่งนัก ซุปฝีมือเจ้านี่ไม่ธรรมดาจริงๆ
อย่าลืมเอาซุปสูตรพิเศษนี้มาแบ่งให้พวกนางด้วยละ”
“ขอรับนายท่าน” ผู้ติดตามรับทราบพร้อมกับตักซุปสูตรพิเศษนี้มาเพิ่มอีก
2 ถ้วย
“นี่พวกเจ้าลองชิมซุปสูตรพิเศษจากชนเผ่าพวกเราดูสิ
อร่อยมากๆเลยนะ อย่าได้เกรงใจไปเลย”
“อะนี่สาวน้อยมีของเจ้าด้วยเช่นกัน” แพนดอร่ามอบถ้วยซุปทั้งสองให้อาร์พิน่าและอาเดน่า
ด้วยความที่แพนดอร่ายื่นถ้วยให้กับทั้งสองสาวกับมือทั้งสองจึงได้จำใจรับมันมาได้รับซุปมาและได้ลองชิมดู
ดวงตาของทั้งสองเบิกกว้างตกตะลึงกับรสชาติอาหารแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้ลิ้มลองมาก่อน
มันช่างหอมหวาน อีกทั้งเนื้อในซุปนี้ยังคงรสชาติอุมามิของวัตถุดิบดั้งเดิมเอาไว้อีกด้วย
“ว้าว ท่านพี่ ซุปนี่อร่อยมากเลย มันช่างหอมอร่อย ข้าอยากกินเพิ่มอีกถ้วยหนึ่งละข้าจะแบ่งให้ไวท์สตาร์กินด้วย” อาร์พิน่าพูดพร้อมกับยื่นถ้วยขอเพิ่มไปยังแพนดอร่าด้วยแววตาวิบวับ
“ได้เลยแม่หนูน้อย” แพนดอร่ายิ้มรับพร้อมกับรับถ้วยในมือมาและยื่นให้กับผู้ติดตาม
“อืม ซุปนี่รสชาติดีมากๆเลยท่านแพนดอร่า
หากไม่มากเกินไปท่านบอกถึงส่วนผสมให้ข้าบ้างได้หรือไม่?”
“หุหุ ได้สิ” แพนดอร่าหัวเราะอย่างมีความสุขพร้อมกับรับถ้วยของอาร์พิน่ามาเติมให้อีกถ้วย
“อ่ะ นี่ข้าดีใจที่เจ้าชอบมัน
หวังว่าเจ้าจะชอบอาหารในมื้อถัดๆไปของการเดินทางด้วยเช่นกัน”
แพนดอร่าตอบพร้อมกับยิ้มให้
…เดี๋ยวก่อนนะในมื้อถัดๆไปของการเดินทางหมายความว่าเช่นไรกัน...
อาเดน่าฉุกคิดขึ้นมาได้กับคำพูดของแพนดอร่าเนื่องจากพวกเขามีหมายกำหนดการว่าจะอยู่ถึงพรุ่งนี้นี่นา
“อะ เจ้าลองชิมนี่ดูสิ ไวท์สตาร์”
“วูฟ”
“ท่านอาเดน่า ท่านรู้จักบุปผาราตรีแรกแย้มหรือไม่
กลีบดอกของมันจะหอมหวานมากๆ ตอนมันผลิบานยามราตรีตามชื่อของมัน” แพนดอร่าเริ่มเล่าเกี่ยวกับดอกไม้ให้อาเดน่าฟัง
“ขออภัยข้านั้นไม่รู้จักดอกไม้ชนิดนี้เลย มันคือเคล็ดลับทำให้น้ำซุปนี้หอมหวานอย่างนั้นงั้นหรอ”
“หืม ใช่แล้วละ” แพนดอร่ายิ้มตอบ
“มันมีกลิ่นหอมหวานมาก ดอกไม้ชนิดนี้มักขึ้นในแถบพื้นที่ชนเผ่าของพวกเรา
มันจะผลิบานในยามราตรีส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว หากพวกเรานั้นนำมันมาใส่ในอาหารมันจะหอมหวานมากๆ
ซึ่งพวกเรานั้นมักนำมาใส่ให้กับแขกที่พิเศษของเราได้ลองชิมเสมอ”
“อ่า...เป็นเช่นนั้นนี่เอง...ดอกไม้พิเศษจากชนเผ่าของพวกท่าน” อาเดน่าเริ่มรู้สึกผิดปกติ
“...แง่มๆๆ พี่จ๋า... วูฟ...วู....ฟ”
“หากนำมันไปตากแห้งและบดเป็นผงแล้วนำไปใส่เพื่อปรุงรสอาหาร
รสชาตินั้นจะหอมอร่อยมากขึ้น อีกทั้งยังดึงรสชาติอุมามิของวัตถุดิบออกมาอีกด้วย” อาเดน่ามองดูน้องสาวที่มีอาการง่วงซึมถึงแม้จะกินมากจนอิ่มก็ตาม อาร์พิน่าไม่น่าจะง่วงเร็วขนาดนี้มันน่าแปลก
ที่น้องสาวของเธอดูมีอาการแปลกไป เธอเริ่มรู้สึกง่วงเช่นกันดวงตาของเธอค่อยๆหนักขึ้นและหนักขึ้น
“นี่...ท่าน...”
ตุบ! อาเดน่า อาร์พิน่า
และไวท์สตาร์ ทั้ง สามต่างฟุบหลับอย่างไร้สติลงไปกับพื้น
“แต่ในความเป็นจริงแล้ว ดอกไม้ชนิดนี้นั้น หากใส่ในปริมาณมากพอ
พวกมันนั้นจะกลายเป็นไร้รส ไร้สี ไร้กลิ่นได้อีกด้วย มันเป็นยานอนหลับชนิดพิเศษที่แสนจะแนบเนียน...” แพนดอร่าพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มอย่างมีเลศนัยอีกครั้งเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
เมื่อเห็นทั้งสามสลบลงไป แพนดอร่าได้ส่งสัญญาณให้เรียกรวมทุกคน
“แผนการช่างแนบเนียนมากขอรับนายท่าน
เท่านี้พวกเราก็บรรลุเป้าหมายการมาเยือนครั้งนี้แล้ว”
“หึหึ”
แพนดอร่าได้เดินเข้ามาใกล้กับร่างของอาเดน่า จากนั้นได้นำมืออันเรียวงามไปสัมผัสลูปบนใบหน้าของอาเดน่าอย่างเบามือและมองไปยังอาร์พิน่ากับไวท์สตาร์ที่เป็นเป้าหมายในการมาครั้งนี้
“ราตรีสวัสเหล่าสาวน้อยที่น่ารักของข้า”
To be Continued...
หรือที่แฟนเพจ https://facebook.com/Whitestar
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCsDZgcn56TT0wkb_BOyWxxA